การเติบโตอัตราของหุ้นตลาดและแอฟริกาโอกาสมหาศาลกำลังรอนักลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ แต่ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ การปล่อยสินเชื่อของจีน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอาจขัดขวางศักยภาพดังกล่าว

 

ในปี 2564 แอฟริกามีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ดีดตัวขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนตามรายงานล่าสุดจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) ซึ่งติดตามความพยายามของโลกาภิวัตน์ในประเทศกำลังพัฒนา พบว่า FDI ไหลเข้าสู่แอฟริกาสูงถึง 83 พันล้านดอลลาร์ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์จาก 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2563 เมื่อวิกฤตสุขภาพโควิด-19 ทำลายล้างเศรษฐกิจโลก

 

แม้ว่าจะมีสัดส่วนเพียง 5.2% ของ FDI ทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเป็นการตอกย้ำว่าแอฟริกามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพียงใด และบทบาทของนักลงทุนต่างชาติที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

 

“เราเห็นโอกาสมหาศาลสำหรับสหรัฐฯ ในการลงทุนในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วของแอฟริกา” อลิซ อัลไบรท์ ซีอีโอของ Millennium Challenge Corporation ซึ่งเป็นหน่วยงานช่วยเหลือต่างประเทศที่ก่อตั้งโดยสภาคองเกรสในปี 2547 กล่าว

 

แท้จริงแล้ว สหรัฐฯ ได้กลับมาให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้อีกครั้ง โดยพิจารณาว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รื้อฟื้นการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-แอฟริกา ซึ่งเป็นงานสามวันที่เริ่มในวันที่ 13 ธันวาคมที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ครั้งสุดท้ายที่การประชุมสุดยอดจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2014

 

UNCTAD ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังไล่ตามอาฟริกาเป็นส่วนใหญ่ แต่ยุโรปกลับเป็นผู้ถือสินทรัพย์ต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในแอฟริกาและยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป UNCTAD ระบุประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปสองประเทศที่มีกิจกรรมนักลงทุนมากที่สุดในภูมิภาคนี้คือสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส โดยมีสินทรัพย์มูลค่า 65,000 ล้านดอลลาร์และ 60,000 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ

 

มหาอำนาจทางเศรษฐกิจระดับโลกอื่น ๆ เช่น จีน รัสเซีย อินเดีย เยอรมนี และตุรกี รวมถึงประเทศอื่น ๆ ก็กำลังลงนามในข้อตกลงข้ามทวีปเช่นกัน

 


เวลาโพสต์: 29 พ.ย.-2565